ประกันชีวิต เพื่อการลดหย่อนภาษี คืออะไร

ภาษี คือ ภาระที่ประชาชนมีหน้าที่จะต้องนำส่งให้ภาครัฐตามที่กฎหมายได้กำหนดเพื่อสนับสนุนภาครัฐและกิจการต่างๆ ของรัฐ โดยอาจจะอยู่ในรูปของเงินหรือไม่ก็ได้ ซึ่ง ประชาชนจะต้องนำส่งทุกรอบปี ทั้งนี้จำนวนมากน้อย ขึ้นอยู่กับรายได้ของบุคคล แต่จะมีค่าลดหย่อนภาษี เพื่อไว้ใช้ในการหักออกจากเงินได้ หลังจากที่หักค่าใช้จ่ายแล้วเพื่อที่จะได้เสียภาษีน้อยลง ซึ่งรายการที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ กลุ่มของ ลดหย่อนภาษีกับประกันและการลงทุน

ในกลุ่มของลดหย่อนภาษีกับประกันและการลงทุน นั้นจะลดได้ทั้งในส่วนของ เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป เงินฝากแบบมีประกันชีวิต เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) / กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ เงินประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ 

เกณฑ์ในการใช้ประกันชีวิตในการขอลดหย่อนภาษี
1.เบี้ยประกันชีวิตที่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ ตามที่จ่ายจริงเท่านั้น แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท และหากรวมกับเงินฝากแบบมีประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท
2.ในกรณีที่มีการทำประกันชีวิตให้คู่สมรสที่ไม่มีรายได้ จะต้องเป็นคู่ที่แต่งงานกันมาก่อนรอบปีนี้จึงจะ สามารถลดหย่อนภาษีได้ ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท
3.ความคุ้มครองที่ระบุไว้ กรมธรรม์ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
4.ถ้ามีการจ่ายเงินคืนเงินปันผลหรือผลตอบแทนระหว่างสัญญา จะต้องได้รับเงินคืนไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันภัยรายปี ทั้งนี้ ถ้าได้รับเงินคืนตามช่วงระยะเวลา เช่น จ่ายคืนทุก 3 ปี หรือ 5 ปี ยอดเงินคืนจะต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันภัยสะสมของแต่ละช่วงเวลา

จะเห็นได้ว่าการทำประกันชีวิตนั้น ไม่ได้มีดีเพียงแค่การสร้างความอุ่นใจในการคุ้มครองชีวิตเท่านั้น  หากแต่ยังมีประโยชน์สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้  ซึ่งก็จะช่วยให้เราสามารถประหยัดรายจ่ายไปได้พอสมควรเลย เรียกได้ว่าทำต่อได้เดียวได้คุ้มถึง 2 ต่อ  รู้แบบนี้แล้วอย่ารอช้านะคะ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ https://www.kwilife.com/