หลายท่านยังอาจไม่รู้ว่า กระจกตาสำคัญอย่างไรกับการทำเลสิก นอกจากข้อจำกัดในการทำเลสิกตามที่ศูนย์เลสิกแต่ละที่ได้ระบุถึงผู้ที่มีความเหมาะสมสำหรับทำเลสิคแล้ว กระจกตายังเป็นปัจจัยหลักที่จะบอกได้ว่าคุณสามารถทำเลสิคได้หรือไม่ หรือการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพกระจกตาอย่างไร
ในกระบวนการทำเลสิกนั้น เป็นขั้นตอนของการแยกชั้นกระจกตา ซึ่งในขั้นตอนนี้จักษุแพทย์ผู้ทำการรักษาต้องตรวจวัดความหนาของกระจกตาก่อนที่จะทำเลสิค ค่าสายตาและความหนาของกระจกตาเป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องทำเลสิก
ผู้ที่มีปัญหากระจกตาบางมากๆ หรือความหนาของกระจกตาไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับระดับความผิดปกติของสายตา คนไข้ที่มีกระจกตาบางก่อนทำอยู่แล้ว หลังทำเลสิกจะทำให้ความแข็งแรงของกระจกตาลดลง อาจไม่เพียงพอต่อการเกิดโรคทางกระจกตาได้ เช่น โรคกระจกตาย้วย เป็นต้น
โดยเฉลี่ยความหนากระจกตาของชาวเอเชีย จะอยู่ประมาณ 500-550 ไมครอน ความหมายของกระจกตาบางนั้น อาจหมายถึง คนไข้มีภาวะสายตาผิดปกติระดับสูงเมื่อเทียบกับกระจกตาที่มีความหนาตามเกณฑ์ปกติแล้ว ก็อาจเป็นสาเหตุซึ่งทำให้ทำการรักษาไม่ได้ เนื่องจากสายตาเยอะเกินไป
ทั้งนี้ สำหรับกรณีที่คนไข้มีภาวะสายตาผิดปกติระดับสูงและเคยเข้ารับการตรวจประเมินจากสถานพยาบาลอื่นมาแล้ว พบว่ามีกระจกตาบางไม่สามารถทำการรักษาได้ แนะนำให้เรามาตรวจกับทาง ศูนย์เลสิค Laser Vision เนื่องจากที่นี่มีเทคโนโลยีการทำเลสิกที่ช่วยประหยัดกระจกตา แม้กระจกตาบางกับมีโอกาสที่จะทำเลสิคได้
โดยขั้นตอนการตรวจวัดประเมินเบื้องต้นทาง Laser Vision จะแนะนำให้คนไข้เข้ารับการตรวจสภาพตาโดยละเอียด เนื่องจากจักษุแพทย์จะทำการพิจารณาดูความหนาของกระจกตา ความโค้งกระจกตา และค่าสายตาของคนไข้ มาประมวลผล และสร้างรูปแบบออกมาว่าคนไข้สามารถทำการรักษาด้วยวิธีเลสิก (LASIK) ได้หรือไม่ ซึ่งในกรณีที่คนไข้มีภาวะสายตาผิดปกติระดับสูงและเคยเข้ารับการตรวจประเมินจากสถานพยาบาลอื่นมาแล้ว พบว่ามีกระจกตาบางไม่สามารถทำการรักษาได้ เมื่อได้เข้ารับการตรวจประเมินสภาพตากับทางเลเซอร์วิชั่นโดยส่วนใหญ่สามารถทำการรักษาได้ เนื่องจากเทคโนโลยีที่ Laser Vision เลือกใช้นั้น ถือเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย และช่วยประหยัดเนื้อเยื่อกระจกตามากกว่าสถานพยาบาลอื่น จึงเพิ่มโอกาสให้กับคนไข้ที่มีสายตาผิดปกติระดับสูง สามารถทำการรักษาสายตาผิดปกติด้วยวิธีเลสิคได้มากขึ้น
เข้าดูรายละเอียดเกี่ยวกับบริการและโปรแกรมการรักษา คลิก